1. PLAIN WEAVE เป็นรูปแบบการทอที่มีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุด โดยการใช้ลวดขนาดเท่ากันทอขึ้นลงทั้งด้านตั้งและนอนทีละ1ช่อง
2. TWILL WEAVE เป็นรูปแบบการทอที่ขึ้นลงทีละ2ช่องทั้งแนวตั้งและแนวนอน ใช้สำหรับการทอลวดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่หรือลวดใหญ่กว่ามาตรฐาน
เพื่อให้ตาข่ายมีความแข็งแรงหรือรับน้ำหนักที่มากกว่าแบบ PLAIN WEAVE
3. DUTCH PLAIN WEAVE เป็นรูปแบบการทอที่มีการใช้ลวดในแนวตั้งที่มีเส้นโตกว่าลวดในแนวนอน และทอขึ้นลงทีละ1ช่อง ทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรง ตาข่ายชนิดนี้โดยทั่วไปเรียกว่าตาข่ายลายเสื่อ
4. DUTCH TWILL WEAVE เป็นการทอที่มีการใช้ลวดในแนวตั้งที่มีเส้นโตกว่าลวดในแนวนอน แต่จะทอขึ้นลงทีละ2ช่องในแนวนอน
5. CRIMPED WIRE MESH คือตาข่ายที่ใช้ลวดหยัก(หรือเรียกว่าลวดตัวหนอนและลวดเส้นมาม่า) ในการทอ โดยเป็นการทอแบบขึ้น1ลง1 เนื่องจากลักษณะของลวดที่เป็นแบบตัวหนอนและมีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ ทำให้ตาข่ายชนิดนี้ใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรงเช่นเป็นตัวคัดกรองวัสดุที่มีน้ำหนักหรือความแข็ง,รั้วป้องกันนกหรือสัตว์ขนาดเล็ก,ผนังและฝ้าห้องเก็บสินค้า,กรงสัตว์,พื้นถาดเข้าเตาอบ,ช่องระบายลมและอื่นๆ
ในกรณีที่ลูกค้าต้องการตาข่ายชนิดที่นอกเหนือจากมาตรฐานทั่วไป ทางเราสามารถสั่งพิเศษจากทางต่างประเทศให้ได้เช่น ต้องการMESHพิเศษ, ช่องใหญ่หรือเล็กกว่ามาตรฐาน, ลวดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง, ความกว้างต่ำกว่า3ฟุตหรือสูงกว่า5ฟุต, ตาข่ายวัสดุอื่นเช่นกาวาไนซ์,ทองแดง,ทองเหลืองและอื่นๆ, ตาข่ายที่เป็นการทอชนิดอื่นเป็นต้น